การกำหนดในการนั่ง
หลักการกำหนด “นั่งหนอ ถูกหนอ”
๑. ใช้ “นั่งหนอ” “ถูกหนอ” กรณี “พองยุบ” หายไป
“พองหนอ-ยุบหนอ” กำหนดไปแล้วมันหายวับไป พอง-ยุบ ไม่มี ถ้ากำหนดหายหนอ ๆ มันไม่มีสภาวะ ตัวมันดับไปแล้ว จะเอาหายตรงไหนเป็นตัวอารมณ์ได้ อันนั้นไม่ต้องดูเลย โบราณาจารย์ท่านบอกว่า เวลา “พอง-ยุบมันหายไป” อย่าเอามือไปคลำ ไม่ต้องไปค้นหา ไม่ต้องไปรอ ทิ้งไปเลย แล้วให้ไปดู “อาการนั่ง” กับ “อาการถูก” ที่เรานั่งสัมผัสอยู่กับพื้นแทน โดยกำหนดว่า “นั่งหนอ” “ถูกหนอ” ให้เอาตัวนั่งกับตัวถูกเป็นตัวแทน “ในช่วงที่พองยุบหายไป”
“การกำหนดถูกหนอ” สมมติสะโพกเรา 2 ข้างนี่ ถ้าเราเอาลอย ๆ ไว้อย่างนี้ ไม่สัมผัสกับพื้น เราจะรู้สิ่งข้างล่างที่เราจะสัมผัสเย็น ร้อน อ่อน แข็ง ว่าเป็นอย่างไรไม่ได้ มันจะต้องถูกหรือสัมผัสก่อน พอถูกปุ๊บ เรียกได้ 3 อย่าง เรียกว่าถูกก็ได้ เรียกว่ากระทบก็ได้ เรียกว่าสัมผัสก็ได้ เหมือนกันเลย พอถูกแล้วความรู้สึกเกิดเขา เช่นถ้าไปสัมผัสกับสิ่งที่แข็ง ก็รู้ว่าแข็ง ถ้าไปสัมผัสกับสิ่งที่อ่อน ก็รู้ว่าอ่อน ถ้าไปสัมผัสกับสิ่งที่ร้อน ก็รู้ว่าร้อน ถ้าไปสัมผัสกับสิ่งที่เย็น ก็รู้ว่าเย็น ถ้าสัมผัสสิ่งที่หย่อนตึงก็รู้ เป็นสัมผัสทางกาย เราสามารถรู้ได้ทางกาย สัมผัสแล้วรู้ในการสัมผัสตามอาการ แต่ถ้าไม่ถูกก็รู้ไม่ได้
อย่างที่เรานั่งสะโพกเราถูกหรือยัง ถูกแล้วความรู้สึกเกิด สมมติว่าเรานั่งอยู่ ความรู้สึกร้อนปรากฏ มันจะมีจุดที่ชัดเด่นอยู่ เรารู้สึก ตรงไหนเย็น ร้อน อ่อน แข็ง ตรงไหนชัด เราหมายตาตรงนั้น สะโพกข้างขวาตรงไหนรู้สึกชัดดี เย็น ๆ ร้อน ๆ อ่อน แข็ง เราก็หมายใจไว้ตรงนี้
เวลาเรานั่งกำหนด “นั่งหนอ” ดูอาการนั่งแวบหนึ่ง แล้วกำหนด “ถูกหนอ” ส่งใจไปสะโพกขวาที่มันสัมผัส รู้สึกเย็น ร้อน อ่อน แข็ง ตรงไหนที่ชัด เราก็ส่งใจไปตรงนั้น กำหนด “นั่งหนอ” ดูนั่งอีกที แล้วก็ “ถูกหนอ” ส่งใจไปสะโพกซ้ายคู่กัน “นั่งหนอ ถูกหนอ” “นั่งหนอ” ถูกหนอ 2 แห่ง คู่กัน
นั่งหนอ ถูกหนอ มีวิธีใช้แทนพอง-ยุบที่หายไป หายไปด้วยเหตุอะไรก็ตาม ด้วยอำนาจของสมาธิก็ตาม ด้วยอำนาจของญาณก็ตาม เราก็มาดู “นั่งหนอ ถูกหนอ” แทน อย่าไปคอยพอง-ยุบ ปล่อยไปเลย ภายหลังรู้สึกว่าพอง-ยุบมาเมื่อไร เราก็ทิ้งนั่งหนอ ถูกหนอ มากำหนดพองหนอ-ยุบหนอต่อ กำหนดไปเรื่อย ๆ ถ้าพอง-ยุบไม่มาก็ไม่ต้องไปกังวล ดูนั่งหนอ ถูกหนอต่อไป
๒. ใช้ “นั่งหนอ” “ถูกหนอ” กับผู้ที่ทำอาณาปานสติมาก่อน
ถ้าเราเจริญอานาปนสติมาก่อน หมายความว่า “เจริญพุทโธ” มาก่อน แล้วติดอยู่ใน “พุทโธ” ถ้าเรามากำหนด “พองหนอ ยุบหนอ” มันจะตีกับลมหายใจ มันจะขึ้น ๆ ลง ๆ ใจมันไม่เป็นสมาธิ เพราะตามกำหนดถึง 2 อย่าง ตามลมหายใจเข้าไปด้วย ดูอาการพองด้วย ตามลมหายใจออก ดูอาการยุบด้วย มันจะตีกัน ให้ทิ้ง “พอง-ยุบ” ให้ดูอาการนั่ง กับอาการถูกแทนไปก่อน หลาย ๆ วันเข้า เมื่อดู พองหนอ ยุบหนอ ถ้ามันไม่ไล่เข้าไปหากัน เราก็มากำหนดพองหนอ ยุบหนอ แต่ถ้ายังขึ้น ๆ ลง ๆ กับลมหายใจอยู่ให้ทิ้งไปเลย ไม่ต้องไปกำหนดเดี๋ยวมันเสียเวลา
๓. ใช้ “นั่งหนอ” “ถูกหนอ” กับพองยุบ ที่ทิ้งช่วง
พอง-ยุบที่ทิ้งช่วง หมายความว่า “พองหนอ ยุบหนอแล้ว” มันไม่ยอมพองมันจะทิ้งช่วงไว้หน่อยหนึ่ง ตอนนี้เราจะต้องเติม “นั่งหนอ” ลงไป จึงจะพองขึ้นมาพอดี อันนี้มันเป็นความละเอียดในการเจริญกรรมฐาน ถึงเวลานั้นจะรู้เอง แล้วถ้าพองหนอ ยุบหนอ นั่งหนอ ลงไปแล้วมันก็ยังไม่ขึ้นมาอีก ก็กำหนด “พองหนอ ยุบหนอ นั่งหนอ ถูกหนอ” อย่างนี้เขาจะพองขึ้นมาพอดี ได้จังหวะ
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
จากหนังสือ แนวทางการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน
โดย พระครูภาวนาสมณวัตร (ประจาก สิริวณฺโณ)